วันพุธที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2558
ตอนพิเศษ
สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ มาคราวนี้ เราเอาตอนพิเศษมาเสิร์ฟ เป็นบทสัมภาษณ์ค่ะ เป็นเรื่องเกี่ยวกับอูคูเลเล่นี่ล่ะ ลองไปฟังกันดู เผื่อเป็นแง่คิดให้กับแต่ละคนนะ ต้องขอขอบคุณ นายภูมิ เข็มเพ็ชร นักศึกษาคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิตด้วยค่ะ ที่มาให้ความรู้และแง่คิดดีๆเกี่ยวกับการเล่นดนตรี ขอฝากเนื้อฝากตัวคุณภูมิด้วยนะคะ ^^
เรียนรู้เรื่อง Chord (คอร์ด)
Chord (คอร์ด)
คอร์ด คือ กลุ่มเสียงโน้ตที่เล่นออกมาพร้อมกัน หรือ กระจายเสียงต่อเนื่องกัน ส่วนใหญ่ใช้โน้ตแบบตัวเว้นตัว (Tertian Harmony)
การสร้างคอร์ดพื้นฐาน
คอร์ดมาจากตัวโน้ตในบันไดเสียง โดยใช้เปรียบเทียบกับ Major Scale ได้ดังนี้
ชื่อคอร์ด และสัญลักษณ์ (Chord Symbol)
ประกอบไปด้วยตัวอักษรตัวใหญ่ และอักขระหรือสัญลักษณ์ต่างๆ ที่นำมาต่อท้าย (Suffix) โดยใช้แบบย่อเพื่อให้กระชับ เช่น
การอ่านคอร์ด
การอ่านคอร์ดของอูคูเลเล่นั้นมีส่วนคล้ายกับการอ่านคอร์ดของกีต้าร์อยู่บ้าง โดยสัญลักษณ์ต่างๆ ที่อยู่บริเวณโครงสร้างคอร์ดสามารถอ่านได้ดังนี้
ตารางต่อไปนี้แสดงโครงสร้างของคอร์ด ซึ่งเป็นสูตรสำเร็จรูปในคีย์ C ทำให้ทราบว่าคอร์ดแต่ละคอร์ดประกอบจากโน้ตตัวที่เท่าไร และมีการเปลี่ยนแปลง หรือ เลื่อนเสียงโน้ตอย่างไรบ้าง เมื่อเทียบกับ C Major Scale
คอร์ด คือ กลุ่มเสียงโน้ตที่เล่นออกมาพร้อมกัน หรือ กระจายเสียงต่อเนื่องกัน ส่วนใหญ่ใช้โน้ตแบบตัวเว้นตัว (Tertian Harmony)
การสร้างคอร์ดพื้นฐาน
คอร์ดมาจากตัวโน้ตในบันไดเสียง โดยใช้เปรียบเทียบกับ Major Scale ได้ดังนี้
- Major Chord ประกอบด้วยโน้ตตัวที่ 1 , 3 , 5
- Minor Chord ประกอบด้วยโน้ตตัวที่ 1 , b3 , 5
- Diminished Chord ประกอบด้วยโน้ตตัวที่ 1 , b3 , b5
- Augmented Chord ประกอบด้วยโน้ตตัวที่ 1 , 3 , #5
ชื่อคอร์ด และสัญลักษณ์ (Chord Symbol)
ประกอบไปด้วยตัวอักษรตัวใหญ่ และอักขระหรือสัญลักษณ์ต่างๆ ที่นำมาต่อท้าย (Suffix) โดยใช้แบบย่อเพื่อให้กระชับ เช่น
- คอร์ด Major ไม่ต้องมีสัญลักษณ์ต่อท้าย เช่น C หมายถึง C Major
- คอร์ด Minor ใช้ " m " หรือ " - " เป็นสัญลักษณ์ต่อท้าย เช่น Cm หรือ C- หมายถึง C Minor
- คอร์ด Augmented ใช้ " + " เป็นสัญลักษณ์ต่อท้าย เช่น C+ หมายถึง C Augmented
- คอร์ด Diminished ใช้ " ํ " เป็นสัญลักษณ์ต่อท้าย เช่น Cํ หมายถึง C Diminished
การอ่านคอร์ด
การอ่านคอร์ดของอูคูเลเล่นั้นมีส่วนคล้ายกับการอ่านคอร์ดของกีต้าร์อยู่บ้าง โดยสัญลักษณ์ต่างๆ ที่อยู่บริเวณโครงสร้างคอร์ดสามารถอ่านได้ดังนี้
- สัญลักษณ์วงกลม (o) หมายถึง การดีดสายนั้นๆ โดยที่ไม่ต้องกดสาย
- สัญลักษณ์กากบาท (x) หมายถึง การไม่ต้องดีดที่สายนั้นๆ
- สัญลักษณ์ 3fr , 5fr , 6fr , ... หมายถึง เฟร็ตเริ่มต้นของคอร์ดนั้นๆ โดยดูจากหมายเลขเฟร็ตที่ระบุไว้ เช่น 3fr คือ ให้เริ่มต้นจับคอร์ดนั้นที่เฟร็ต 3
- สัญลักษณ์แทนนัท (Nut) คือ แถบทึบสีดำด้านบนสุด หมายถึง ตารางคอร์ดนั้นเริ่มจากเฟร็ตที่ 1
- ตัวเลขที่อยู่ในวงกลม หมายถึง นิ้วที่ใช้ในการกดสายนั้นๆ โดยกำหนดตัวเลขแทนนิ้วมือแต่ละนิ้วดังนี้
ตารางต่อไปนี้แสดงโครงสร้างของคอร์ด ซึ่งเป็นสูตรสำเร็จรูปในคีย์ C ทำให้ทราบว่าคอร์ดแต่ละคอร์ดประกอบจากโน้ตตัวที่เท่าไร และมีการเปลี่ยนแปลง หรือ เลื่อนเสียงโน้ตอย่างไรบ้าง เมื่อเทียบกับ C Major Scale
ตารางรวมคอร์ดอูคูเลเล่เบื้องต้น
เอาไว้ฝึกเล่นกันดูนะ ลองจับดูว่าจับถนัดกันมั้ย แต่ไม่ต้องท่องจำทั้งหมดนะ เวลาเล่นไม่ได้เล่นทุกอันหรอก แล้วในหนังสือเพลงก็จะมีคอร์ดให้ดูข้างๆ เพื่อช่วยบอกเราอยู่แล้ว แต่ถ้าใครสามารถจำได้ก็ลุยเลย เราเป็นกำลังใจให้ สู้ๆ^^
วันอังคารที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2558
ตัวโน้ตบน Ukulele
ตัวโน้ตบนอูคูเลเล่
ตัวโน้ตเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับการเล่นเครื่องดนตรีทุกชนิด พื้นฐานของดนตรีจะมีตัวโน้ตอยู่ทั้งหมด 12 ตัว โดยเรียกชื่อทางชาร์ป (#) ได้แก่ C , C# , D , D# , E , F , F# , G , G# , A , A# , B , C หรือเรียกชื่อทาง แฟร็ต (b) ได้แก่ C , Db , D , Eb , E , F , Gb , G , Ab , A , Bb , B , C สำหรับอูคูเลเล่นั้นมีตัวโน้ตคามสายและเฟร็ตต่างๆ ดังนี้
ตัวโน้ตเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับการเล่นเครื่องดนตรีทุกชนิด พื้นฐานของดนตรีจะมีตัวโน้ตอยู่ทั้งหมด 12 ตัว โดยเรียกชื่อทางชาร์ป (#) ได้แก่ C , C# , D , D# , E , F , F# , G , G# , A , A# , B , C หรือเรียกชื่อทาง แฟร็ต (b) ได้แก่ C , Db , D , Eb , E , F , Gb , G , Ab , A , Bb , B , C สำหรับอูคูเลเล่นั้นมีตัวโน้ตคามสายและเฟร็ตต่างๆ ดังนี้
โน้ตบนเฟร็ตบอร์ดของอูคูเลเล่
การตั้งสาย Ukulele
อูคูเลเล่ เป็นเครื่องดนตรีสากลที่ใช้ระบบโน้ตแบบ โครมาติก (Chromatic) สายต่างๆจะตั้งเป็นโน้ต ดังนี้
อูคูเลเล่จะต่างกับเครื่องดนตรีประเภทสายอื่นๆ คือ สายสุดท้ายหรือสาย 4 จะตั้งเป็นโน้ตที่สูงกว่าสาย 3 คือ สาย 4 จะตั้งเป็นโน้ต G ที่ใกล้เคียงกับโน้ต A ที่สาย 1 การที่เราใส่สายอูคูเลเล่เช่นนี้ว่ากันว่าจะทำให้เหมาะกับการเล่นสตรัม (Strum หรือการดีด) แต่ทั้งนี้ก็มีการนำสายที่ให้เสียง G ต่ำ หรือที่เรียกว่าการใส่สายแบบ Low G มาใช้ในอูคูเลเล่เช่นกัน การใส่สายดังกล่าวจะทำให้สาย 4 ให้เสียง G ที่ต่ำ กลายเป็นเสียงที่ต่ำที่สุดในทั้งหมด 4 สายของอูคูเลเล่ การใส่สายแบบ Low G นี้ เหมาะกับการเล่นปิ๊กกิ้ง (Picking) คือ การเลือกเล่นทีละสาย หรือ มากกว่านั้น
รู้จักกับโน้ตสากล
โน้ตสากลจะใช้แทนดัวยอักษรภาษาอังกฤษ เพียง 7 ตัวเท่านั้น คือ A B C D E F G แต่จะมีโน้ตจริงๆทั้งหมด 12 ตัว คือ จะมีโน้ตคั่นกลางระหว่างโน้ตพวกนี้ด้วย ยกเว้นระหว่าง B กับ C และระหว่าง E กับ F ซึ่งเขียนได้ 2 แบบ ดังนี้
A-A#-B-C-C#-D-D#-E-F-F#-G-G#
A-Bb-B-C-Db-D-Eb-E-F-Gb-G-Ab
จากตัวอย่างจะเห็นได้ว่าโน้ตที่อยู่ระหว่างกลางเหล่านี้เป็นโน้ตตัวเดียวกัน แต่มีได้ 2 ชื่อ โดยที่มีเครื่องหมายบางอย่างกำกับอยู่ เครื่องหมายเหล่านี้เรียกว่า เครื่องหมายแปลงเสียง นั่นเอง
เครื่องหมายแปลงเสียง
ใช้บังคับโน้ตให้มีเสียงสูงขึ้นหรือต่ำลง ดังนี้
Sharp (ชาร์ป) ทำให้เสียงสูงขึ้น 1/2 เสียง
Flat (แฟร็ต) ทำให้เสียงต่ำลง 1/2 เสียง
Double Sharp (ดับเบิลชาร์ป) ทำให้เสียงสูงขึ้น 1 เสียง
Double Flat (ดับเบิลแฟร็ต) ทำให้เสียงต่ำลง 1 เสียง
Natural (เนเจอรัล) ทำให้เสียงกลับเป็นปกติ ถ้ากำกับโน้ตตัวไหน ก็กดโน้ตตัวนั้นเป็นตัวปกติ
ตัวอย่างเครื่องหมายแปลงเสียงบนโน้ต
1. โน้ต A จะอยู่บนสายที่ 2 เฟร็ตที่ 5
2. ถ้าใส่เครื่องหมาย # เป็น A# ก็จะได้โน้ต A# อยู่บนสายที่ 2 เฟร็ตที่ 6 หรือก็คือ เลื่อนนิ้วเข้าหาลำตัวอูคูเลเล่ 1 เฟร็ต
3. ถ้าใส่เครื่องหมาย b เป็น Ab จะได้โน้ต Ab อยู่บนสายที่ 2 เฟร็ตที่ 4 หรือก็คือ เลื่อนนิ้วออกไปทางหัวอูคูเลเล่ 1 เฟร็ต
4. ในกรณีที่เราจับคอร์ดที่ต้องกดทุกสาย เช่น คอร์ด Gm ที่เฟร็ตที่ 5 แล้วเราไปเจอคอร์ด G#m ในเพลง เราก็จับคอร์ดเหมือน Gm แต่เลื่อนนิ้วทั้งหมดมาทางลำตัว 1 เฟร็ต หรือก็คือ เริ่มจับคอร์ดจากเฟร็ตที่ 6 นั่นเอง
หมายเหตุ : การเลื่อนนิ้วให้ใช้กับคอร์ดที่กดทุกสายเท่านั้น
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)