วันอังคารที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

การเลือกซื้อ Ukulele

วิธีดูอูคูเลเล่
  • หาคนที่เล่นเป็น ไปช่วยเลือกซื้อ
               วิธีนี้ง่ายที่สุด หาคนที่เล่นอูคูเลเล่เป็น ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน หรือ คนรู้จัก ไปช่วยเลือกซื้อ
เพราะของแบบนี้ คนมีประสบการณ์ถึงจะบอกได้ (สาย เสียง การจับ คุณภาพโดยรวม) ถ้าเราไม่มีประสบการณ์มาก่อน ย่อมตัดสินใจลำบาก ถ้าไม่มีคนไปด้วย อาจต้องหา Review จากเว็บไซต์แล้ววัดดวงกันไป
  • ลองเล่นเองดูเลย (Playability)
                ลองดูว่า ถือแล้ว ถนัดมือเราไหม ย้ายมือสะดวกหรือเปล่า สมดุลดีไหม เล่นแล้วเสียงบอด หรือ หึ่งไปหรือเปล่า เลือกดูอันที่เราคิดว่า เราชอบ และสามารถเล่นไปได้อีกนาน ๆ
  • ขนาด (Size)
                อูคูเลเล่ มีอยู่ 4 ขนาด ได้แก่
- เล็ก (Soprano) เป็นขนาดมาตรฐานของอูคูเลเล่ เหมาะสำหรับมือใหม่ เสียงจะหวานแบบฉบับอูคูเลเล่ รุ่นนี้เหมาะทั้งกับเด็กและผู้ใหญ่
- กลาง (Concert) มีโน้ตให้กดมากกว่ารุ่นเล็ก ขนาดยาวกว่าเล็กน้อย ยังคงเสียงหวาน ๆ อยู่
- ใหญ่ (Tenor) เหมาะสำหรับมือกีต้าร์ ที่ย้ายค่ายมาเล่นอูคูเลเล่ รองรับรูปแบบการเล่นที่หลากหลายได้ เสียงจะต่างไปจาก 2 รุ่นแรกอยู่บ้างนิดหน่อย
- ใหญ่มาก (Baritone) อันนี้ตัดออก เรียงสายไม่เหมือนชาวบ้าน
                 ถ้าให้เราแนะนำนะ ให้เริ่มต้นเล่นที่รุ่นเล็ก (Soprano) ก่อน เพราะถ้าเราอยากเล่นขนาดอื่นๆ ก็จะสามารถเล่นได้เลย เพราะใช้พื้นฐานเดียวกัน
  • ราคา (Price)
                 อูคูเลเล่ที่ดี ราคามักจะอยู่ที่ 1,500 บาทขึ้นไป (มือใหม่ ไม่ควรใช้งบเกิน 5,000 บาท) เพราะเราไม่รู้ว่า เราจะชอบอูคูเลเล่หรือเปล่า และขณะเดียวกัน ถ้าเสียงไม่ดี ก็คงไม่มีใครอยากเล่นต่อ แน่นอนว่า ของถูกมักไม่ใช่ของดี และของแพงใช่ว่าจะดีเสมอไป ต้องพึงนึกถึงข้อนี้เอาไว้ด้วย
  • เสียง (Sound)
                 ข้อนี้เป็นข้อตัดสินเลย เพราะว่าเราซื้อมา เราเล่นเอง เราชอบเสียงอูคูเลเล่ตัวนี้ไหม  วิธีที่ง่ายคือ เทียบเสียงกับตัวที่ราคาแพง หรือ เทียบเสียงกับวิดีโอรุ่นอูคูเลเล่ที่เราถูกใจ พยายามเทียบเสียง หาลักษณะร่วมของตัวที่แพง กับ ตัวที่จะซื้อให้เจอ
  • รูปทรง (Alignment)
                 ตรวจดูว่า มีรอยแตก ด้านนอก/ในไหม (เอาไฟส่อง ดูว่าไฟทะลุไหม) ด้านในงานเก็บดีหรือเปล่า ส่วนหัวกับหาง สายเรียงตรงหรือเบี้ยว (ยกขึ้นมาส่อง จากหัวไปยังส่วนท้าย) ควรจะเรียงตรงเหมือนรางรถไฟ ถ้าเบี้ยว จะทำให้เสียงที่ดีดออกมาเพี้ยนได้ เลือกทรงที่หน้าตาเหมือนกีต้าร์ธรรมดา หรือ เหมือนสัปปะรด แตงโม พวกนี้เวลาจับแล้วถือง่าย วางบนตักง่าย  ถ้าเป็นพวกทรงแปลก ๆ แบบพวกตัว V ถึงเท่ แต่จับลำบาก นอกจากนี้เช็คดูด้วยว่าจุดยึดสายทุกจุด (Nut, Bruidge) แน่นหนา ไม่โยกคลอน ส่วนเชื่อมคอ (Neck) กับ ลำตัว (Body) แน่นหนา ไม่เบี้ยว
  • ไม้ (Wood)
                ไม้ที่ใช้ทำอูคูเลเล่ มีหลายชนิดมาก ตั้งแต่ Koa, Mahogany, Cedar ฯลฯ  ถ้าเป็นแบบไม้แท้ ชนิดของไม้ที่ทำจะมีผลต่อเสียงเป็นอย่างมาก ส่วนแบบไม้อัด ชนิดของไม้ไม่มีผล เพราะเป็นแค่ลายไม้ แปะทับลงไปบนไม้อัดอีกที
- ไม้แท้ (Solid wood) ทำจากไม้แท้ ๆ ตรงแผ่นหน้าเลย และแน่นอนว่า แบบไม้แท้ ราคามักจะโดดขึ้นไปอย่างมาก
- ไม้อัด (Laminated wood) แบบนี้ข้างนอกเป็นลายสวย ๆ ข้างในเป็นไม้อัด ไม้อัด เสียงจะอู้อี้ ๆ และดังน้อยกว่าแบบไม้แท้ ข้อดีของไม้อัดก็มีอยู่ คือ อายุการใช้งานจะทนกว่าไม้แท้ พอผ่านไปนาน ๆ พวกไม้อัด เสียงจะไม่อู้อี้ไปกว่าเดิม และทนอากาศชื้น ๆ ของเมืองไทยได้ดีกว่าด้วย
***บางคงอาจจะสงสัยว่าไม้อัดมันคืออะไร ไม้อัดคือการที่คน เอาท่อนซุง ทรงกระบอก ไปเข้าเครื่อง แล้วรีดซุงออกมาบางเหลือเท่าแผ่นกระดาษ (นึกถึงลักษณะม้วนกระดาษทิชชู่ก็ได้) จากนั้นเอาแผ่นไม้บาง ๆ เหล่านี้มาซ้อนกันแล้วนำไปอัดเข้าด้วยกันให้ติดเป็นแผ่นไม้หนา ๆ
***ข้อที่ควรรู้อีกอย่างคือ ในท้องตลาดส่วนใหญ่เป็นแบบไม้อัด แต่ก็มักจะถูกโฆษณาว่าเป็นไม้แท้ เช็ครุ่นดูดี ๆ 
- ถ้างบจำกัด และรักสิ่งแวดล้อม แนะนำให้เลือกแบบไม้อัด
- ถ้างบไม่จำกัด แบบไม้แท้ เสียงจะดีกว่า
  • สาย (String)
                 สายมีหลายชนิดเหมือนกัน มีทั้งแบบสายไนลอน (Nylon) สายไส้สัตว์ (Gut string) สายเหล่านี้มีผลต่อการ เล่นอูคูเลเล่ (Ukulele) ทำให้เสียงที่ออกมาเป็นดังที่ต้องการ ยี่ห้อที่นิยม ได้แก่ Aquila, Worth  ของแบบนี้ ต้องลองจับดูเลย ถ้าไปเจอรุ่นถูก ๆ เข้า เวลาเล่นแล้วจะเจ็บนิ้ว พอสมควร ควรดูด้วยว่าระยะห่างระหว่างตัวสาย กับ เฟร็ต (เหล็กรูปตัวหนอน, Fret) ห่างกันแค่ไหน (มองจากด้านข้าง)
- ถ้าสายอยู่สูงไป เสียงจะดี และไม่ค่อยเพี้ยนไปโดนสายอื่น แต่จะเจ็บนิ้ว และกดคอร์ดยาก
- ถ้าสายอยู่ต่ำไป จะกดคอร์ดง่าย แต่ไปพลาดโดนคีย์อื่นได้ง่ายเช่นกัน
***คำแนะนำโดยทั่ว ๆ ไป คือ ห่างประมาณเอาบัตรประชาชนสอดเข้าไปได้ (สายตรงช่วงบนสุด กับ เฟร็ต)
  • ลูกบิดตั้งสาย (Geared Tuner)
                 เลือกซื้อแบบที่ใช้มือบิดได้ (แบบเฟือง, Geared tuner) หน้าตาคือลูกบิดที่ยื่นออกไปด้าoข้าง (ดังรูปประกอบบทความ) ลูกบิดแบบนี้ปรับง่าย ลูกบิดต้องยึดแน่นกับตัวอูคูเลเล่ ดีด ๆ ไปซักพัก เสียงไม่ควรจะเพี้ยนเร็ว (ยกเว้นสายที่พึ่งขึ้นใหม่ ๆ ช่วงแรก ๆ สายจะยังไม่ยืดพอ ทำให้เพี้ยนเร็ว แต่เล่นไปซักพัก สายจะเข้าที่เอง)
- บิดตามเข็มนาฬิกา คลายสายให้หย่อนลง
- บิดทวนเข็มนาฬิกา ขึงดึงสายให้ตึงขึ้น

*****ระวังของปลอม (Counterfeit)ของปลอมมีหลายแบบ ทั้งปลอมแบบทั้งหน้าตา ทั้งโลโก้ กับ ปลอมแบบลอกเลียนแบบหน้าตามา แต่โลโก้เปลี่ยนตัวพยัญชนะไปบ้าง เช็คดูดี ๆ ก่อนซื้อ หาร้านที่ไว้ใจได้ ยี่ห้อไหนไม่เคยเห็น ไม่เคยได้ยิน Search ก่อนว่ามียี่ห้อนี้อยู่จริงหรือไม่ เช่น ยี่ห้อจริง ชื่อ TOUGH (ชื่อสมมติ) ยี่ห้อปลอม ชื่อ TOUCH (ชื่อสมมติ) การเปลี่ยนตัวพยัญชนะไปบ้าง ถ้าคนซื้อสังเกตไม่ดี ทำให้คนที่จำชื่อได้ไม่แม่น หรือ อาศัยว่าคุ้น ๆ เอา แล้วหยิบซื้อเลย จะพลาดเอาได้
ลองค้นหาดูก่อน จากในอินเทอร์เน็ต (Internet) ก็ได้ ว่ามีผู้ผลิตยี่ห้อนี้จากต่างประเทศจริงหรือไม่  ราคาของปลอม มีตั้งแต่ถูกสุด ๆ ไปยังแพงสุด ๆ เหมือนกัน

ก่อนตัดสินใจซื้อ ต้องรอบคอบ และคัดเลือกให้ดีที่สุดนะคะ^^


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น